สมุนไพรพื้นบ้านของไทยที่หาได้ง่าย ช่วยดูแลสุขภาพและยังรักษาโรคความดันโลหิตสูงได้ดี
“การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” คำกล่าวนี้ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย ก็ยังคงได้ยินกันอยู่เสมอ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมคนโบราณ ปู่ ย่า ตา ยาย ท่านถึงไม่มีโรคประจำตัวและอายุยืนยาว ทั้งๆที่ความก้าวหน้าทางการแพทย์สมัยก่อนยังไม่เหมือนกับปัจจุบัน นั่นเป็นเพราะ คนโบราณได้มีการศึกษาหาสมุนไพรเพื่อดูแลสุขภาพและรักษาร่างกาย ซึ่งในยุคปัจจุบันก็ยังเป็นที่ยอมรับกันมากยิ่งขึ้น
เชื่อว่าคนไทยทุกคนน่าจะคุ้นหูและเคยกินสมุนไพรทั้ง 2 ตัวนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะนำมาปรุงอาหาร ทำน้ำสมุนไพร หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆหลากหลายชนิด ที่สำคัญหาง่าย ราคาก็แสนจะถูก นั่นก็คือ ตะไคร้ และ กระเจี๊ยบแดง
ตะไคร้ เป็นพืชท้องถิ่นที่หาง่าย ราคาถูก เป็นพืชล้มลุก รวมกันอยู่เป็นกอใบเดี่ยว เรียงสลับ ใบยาวแคบมีกลิ่นหอม มีเหง้าแข็งใต้ดิน ขยายพันธุ์โดยการแตกหน่อ สารสำคัญที่พบ คือ น้ำมันหอมระเหย ชื่อว่า Lemon grass oil หรือ Verbena oil หรือ Molissa oil ซึ่งมีองค์ประกอบเป็น Citral ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์
ประโยชน์ทางยาใช้ขับลม ขับเหงื่อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว และลดความดันโลหิต
สูตรเด็ดทำน้ำตะไคร้
เคล็ดลับ: ***เติมน้ำผึ้ง หรือ มะนาวเล็กน้อย ตามชอบ เพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น
กระเจี๊ยบแดง เป็นพืชปีเดียว ต้นเป็นพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นและกิ่งก้านมีสีม่วงแดง ดอก เป็นดอกเดี่ยวสีชมพูตรงกลางดอกมีสีเข้มกว่าส่วนนอก สารสำคัญที่พบ คือ กลุ่มแอนโทไซยานิน (anthocyanins) เช่น สารไซยานิดิน (cyanidin) เดลฟินิดิน (delphinidin)
ข้อมูลการศึกษาวิจัยทางคลินิกพบว่า กระเจี๊ยบแดงมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ และทำให้ผู้ป่วยมีปัสสาวะใสกว่าเดิม ขับกรดยูริกทางปัสสาวะ เพิ่มการขับโซเดียมออกทางปัสสาวะ ลดการเกิดนิ่ว ลดความดันโลหิตและลดไขมันในเลือดได้
สูตรเด็ดทำน้ำกระเจี๊ยบ
เคล็ดลับ: ***เติมน้ำผึ้ง หรือ น้ำตาลเล็กน้อย ตามชอบ เพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น
ความดันโลหิตสูงเป็นโรคเงียบและมักจะไม่มีอาการที่จำเพาะชัดเจน ในบางคนอาจมีอาการได้ ดังต่อไปนี้
หากไม่ได้รับการักษาหรือปล่อยให้ความโลหิตสูงเป็นเวลานานๆ ร่วมกับการมีโรคประจำตัวอื่นๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคไต และโรคหัวใจ ผู้ป่วยอาจเกิดความผิดปกติของอวัยวะที่สำคัญต่างๆตามมาได้ เช่น สมอง ประสาทตา หัวใจ ไต หลอดเลือดแดงใหญ่ และหลอดเลือดแดงส่วนปลาย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต และเสียชีวิต เนื่องจากความดันโลหิตสูงจะทำให้หลอดเลือดแดงแทบทุกส่วนของร่างกายเสื่อม เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) หลอดเลือดตีบ และเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้ไม่ดีเท่าที่ควร
1.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเป็นสิ่งแรกที่ควรทำในการดูแล รักษา โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งประกอบด้วย
2. รับประทานยาและรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
รับประทานยาตามแพทย์สั่งสม่ำเสมอ ห้ามขาดยา ไม่ควรหยุดยาหรือปรับเปลี่ยนยาด้วยตัวเอง และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
โรคความดันโลหิตสูง ส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุของการเกิดที่แน่ชัด และมักไม่มีอาการแสดง การตรวจสุขภาพประจำปี อย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง จะช่วยให้เรารับรู้การเปลี่ยนแปลงสุขภาพของตัวเอง และปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องหากเกิดความผิดปกติต่อร่างกาย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมแอดไลน์