4 ฟังก์ชั่นที่สมาร์ทวอทช์ต้องมี!! ถึงจะเป็นนาฬิกาเพื่อสุขภาพของจริง

[rank_math_breadcrumb]

สมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) หรือที่เรียกกันในภาษาไทยว่า “นาฬิกาอัจฉริยะ” คือ นาฬิกาที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สามารถทำงานในฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น ซึ่งในปี 2024 ได้มีการพัฒนาการทำงานของสมาร์ทวอทช์เหล่านี้ ในหลายๆด้าน ดังนั้นหากต้องการซื้อนาฬิกาใช้งานสักเรือน ควรเลือกที่เป็นสมาร์ทวอทช์ที่มี 4 ฟังก์ชั่นต่อไปนี้ในเรือนเดียวกัน3

1. ฟังก์ชั่นเพื่อสุขภาพที่ครบครัน

ในปัจจุบันสมาร์ทวอทช์ได้ถูกพัฒนาเพื่อให้เป็นเครื่องมือในการติดตามสุขภาพของผู้ใช้งาน จนมีชื่อเรียกเฉพาะตัวว่า “นาฬิกาเพื่อสุขภาพ” โดยเริ่มจากการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ จากนั้นจึงพัฒนาเซ็นเซอร์ให้สามารถวัดค่าสุขภาพอื่นได้ด้วย เช่น การวัดความดันโลหิต, การวัดออกซิเจนในเลือด, การวัดความเครียด, การวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG), การวัดอุณหภูมิร่างกาย, การวัดอัตราการหายใจ และ การติดตามการนอนหลับ เป็นต้น ยิ่งฟังก์ชั่นเยอะ ก็ยิ่งราคาสูงตามไปด้วย

บางฟังก์ชั่นอาจจะไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้งานบางคน ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อนาฬิกาสุขภาพที่เหมาะสมกับการใช้งาน แต่ฟังก์ชั่นหลักที่ควรมีก็คือ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การวัดออกซิเจนในเลือด การวัดความดันโลหิต และการติดตามการนอนหลับ โดยเฉพาะนาฬิกาวัดความดันได้ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากยังมีไม่กี่ยี่ห้อที่สามารถวัดความดันโลหิตได้แม่นยำ

** นอกจากนาฬิกาเพื่อสุภาพ ยังสามารถใช้ แหวนเพื่อสุขภาพ Pure Health JC Smart Ring แหวนอัจฉริยะ ในการวัดค่าสุขภาพได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการติดตามการนอนหลับ, ความเสี่ยงการเป็นเบาหวาน, ความเครียด รวมทั้งค่าพื้นฐาน เช่น ชีพจร, ออกซิเจน เป็นต้น เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับคนที่ไม่ชอบการใส่นาฬิกาสมาร์ท วอทช์ แต่อยากติดตามสุขภาพเบื้องต้น

2. ฟังก์ชั่นการออกกำลังกาย โดยไม่ต้องพกโทรศัพท์ติดตัว

หลังจากที่มีการพัฒนาเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจในสมาร์ทวอทช์ ซึ่งออกมาพร้อมกับฟังก์ชั่นการนับก้าวเดินแล้วคำนวนออกมาเป็นระยะทางและแคลอรี่ ซึ่งต่อมาได้นำฟังก์ชั่นจับการเคลื่อนไหวและการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ มารวมกันกลายเป็นฟังก์ชั่นออกกำลังกาย จากเดินเป็นวิ่ง และเป็นอีกหลายชนิดกีฬา จนต่อมาได้มีการนำเอา GPS ใส่ลงไปเพื่อให้สามารถติดตามเส้นทางการวิ่งได้ จนกลายเป็น “นาฬิกาออกกำลังกาย” แยกออกไปต่างหาก

อย่างไรก็ดี การออกกำลังกายด้วยสมาร์ทวอทช์ ไม่จำเป็นต้องมี GPS ก็สามารถแสดงค่าระยะทาง แคลอรี่ ได้แม่นยำเช่นกัน ดังนั้นหากเลือกใช้โหมดออกกำลังกายที่ไม่มี GPS จะทำให้ราคาสินค้าไม่แพงจนเกินไป รวมทั้งยังประหยัดแบตเตอรี่ได้อีกด้วย

3. ฟังก์ชั่นการแจ้งเตือน

ในปัจจุบันสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการสื่อสาร ซึ่งการแจ้งเตือนจึงเป็นอีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นมาบนสมาร์ทวอทช์ ทำให้ผู้ใช้สามารถอ่านข้อความได้จากนาฬิกาโดยไม่ต้องเปิดโทรศัพท์มือถือคอยเช็คข้อความบ่อยๆ ในบางรุ่นสามารถที่จะอ่านและตอบข้อความได้ผ่านนาฬิกา ซึ่งแน่นอนว่าเป็นรุ่นที่มีราคาค่อนข้างสูง แต่สำหรับแจ้งเตือนมามีข้อความเข้า ใครส่งมา ส่งมาจากแอปฯใด ก็เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว

4.ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวก

ทุกวันนี้นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ เป็นมากกว่าอุปกรณ์สำหรับเพื่อดูแลสุขภาพหรือใช้ออกกำลังกายเท่านั้น แต่สามารถอำนวยความสะดวกอื่นๆให้กับผู้ใช้งานด้วย โดยฟังก์ชั่นที่ควรมีได้แก่ นาฬิกาปลุก, การควบคุมการเล่นเพลง, การกดชัตเตอร์จากนาฬิกา, ไฟฉาย, การเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกา เป็นต้น

แน่นอนว่าหากต้องการสมาร์ทวอทช์ที่มีฟังก์ชั่นที่หลากหลายก็ต้องแลกกับมูลค่าของสินค้าที่อาจจะต้องจ่ายในหลักหลายพันหรือหลายหมื่นบาท ซึ่งบางฟังก์ชั่นก็แทบไม่ได้ใช้ ทำให้เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้นการเลือกนาฬิกาสมาร์ทวอทช์เพื่อสุขภาพควรเลือกตามความจำเป็นที่ใช้ จึงจะคุ้มค่าเงินที่จ่ายไป

เลือกนาฬิกาสมาร์ทวอทช์เพื่อสุขภาพรุ่นไหนดี?

จากทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น รวมกับราคาที่ต้องจ่ายไป Pure Health Life HR 5 จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการในการใช้สำหรับเพื่อดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย และใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะในราคาเพียง 3,490 บาท สามารถทำได้ทุกอย่างตามที่สมาร์ทวอทช์ควรจะทำได้ โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพ นาฬิการุ่นนี้สามารถวัดค่าต่างๆได้อย่างแม่นยำ เพราะมีการพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีเพื่อให้เหมาะกับคนไทยโดยเฉพาะ ทำให้กลายเป็นนาฬิกาวัดความดันที่มีความแม่นยำ 90% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา อีกทั้งยังวัดค่าอัตราการเต้นของหัวใจและออกซิเจนในเลือดได้แม่นยำ เมื่อเทียบกับนาฬิกาสมาร์ทวอทช์แบรนด์ดังๆ แต่มีราคาแพงกว่าหลายเท่า3

บริษัท เพียวเฮลท์ไทย จำกัด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมแอดไลน์